The Vertical Cruise

    ล่องเรือกลางเจ้าพระยา ทานดินเนอร์สุดหรู กับมื้อพิเศษ คนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนรัก ซึ่งในโอกาสดีดีแบบนี้ ขอนำเสนอทริป ล่องเรือดินเนอร์ เรือสำราญ The Vertical Cruise แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา กับราคาพิเศษสุดคุ้ม กับอาหารค่ำที่แสนอร่อย ดื่มด่ำบรรยากาศสวยๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากไปช่วงค่ำๆ รับรองว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ โดนใจคนรักแน่นอน ในปัจจุบัน…..มีบริษัทเรือสำราญที่เปิดให้บริการ ล่องเรือกลางเจ้าพระยา ยามราตรีในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ด้วยกันหลากหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทก็จะกระจายกันออกไปตั้งจุดให้บริการล่องเรืออยู่ตามท่าเรือต่างๆ รวมด้วยกันทั้งหมด 4 แห่ง  เริ่มจาก The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) เรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งตั้งจุดให้บริการอยู่ที่ท่าเรือ ASIATIQUE the Riverfront เท่านั้น 

The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) เป็นเรือสำราญ ล่องเรือกลางเจ้าพระยา ขนาด 600 ที่นั่ง มีความยาวตลอดลำเรือประมาณ 59 เมตร กว้างราว 12 เมตร ภายในลำเรือแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่

  1. ห้องปรับอากาศชั้นล่าง :จุผู้โดยสารได้ 150 ที่นั่ง โดยรอบลำเรือติดตั้งกระจกใสที่สามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์ริมสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน
  2. ห้องปรับอากาศชั้นกลาง : จุผู้โดยสารได้ 250 ที่นั่ง โดยรอบลำเรือติดตั้งกระจกใสในลักษณะเดียวกันกับห้องปรับอากาศชั้นล่าง
  3. ดาดฟ้ารับลมชั้นบน : เป็นลักษณะดาดฟ้าเปิดโล่งไม่มีหลังคา ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามของทัศนียภาพต่างๆ ขณะล่องเรือได้โดยรอบแบบ 360 องศา พื้นที่ชั้นดาดฟ้าของ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) นี้สามารถจุผู้โดยสารได้จำกัดประมาณ 200 ที่นั่ง (ที่นั่งของ The Vertical Cruise จัดตามลำดับการจอง ถ้าจองก่อนก็จะมีสิทธิ์ได้เลือกที่นั่งก่อนครับ) หากมีแนวโน้มว่าฝนจะตกในวันใดๆ นักท่องเที่ยวซึ่งจองที่นั่งล่องเรือไว้บนชั้นดาดฟ้าจำเป็นจะต้องย้ายที่นั่งลงไปยังห้องปรับอากาศชั้นกลางหรือชั้นล่าง

 

   ในส่วนของอาหารที่ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ให้บริการ จะมีลักษณะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ไทย – นานาชาติซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตักเติมได้ตลอดระยะเวลาการล่องเรือ โดยมีรายการอาหาร  

  • ประเภทอาหารเรียกน้ำย่อยและสลัด : สลัดบาร์, ปลาดิบ, ข้าวปั้น, ข้าวห่อสาหร่าย, ลาบไก่, ส้มตำไทย, ส้มตำปู, กุ้งแม่น้ำบนน้ำแข็ง, ยำทะเล
  • ประเภทซุป : ซุปครีมเห็ด, ต้มยำกุ้ง
  • ประเภทอาหารจานหลัก : ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง, หมูอบซอสเกรวี่, เนื้อสันในอบซอสเกรวี่, ไก่ย่าง, ไก่ทอด, แกงเผ็ดเป็ดย่าง, ปลาทอดสามรส, ทอดมันปลากราย, ผัดผักสี่สหาย, สปาเก็ตตี้คาโบนาล่า, ผัดไทย, ข้าวผัดไข่, ข้าวสวย
  • ประเภทอาหารหวานและเครื่องดื่ม : ผลไม้สดตามฤดูกาล, แกงบวดฟักทอง, เค้กต่างๆ, พานาค็อตต้า, ขนมไทย, ชา, กาแฟ, น้ำสมุนไพร, น้ำเปล่า  

 เส้นทางการ ล่องเรือกลางเจ้าพระยา The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์)

The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะเริ่มออกล่องจากท่าเรือ ASIATIQUE the Riverfront ในเวลา 19.30 น. มุ่งหน้าขึ้นเหนือทวนเส้นทางการไหลของแม่น้ำเจ้าพระยาเรื่อยไปจนกระทั่งถึงสะพานพระราม 8 หลังจากนั้นจึงลอดใต้สะพานวกกลับล่องลงใต้มาตามแนวเส้นทางเดิมและกลับมาถึงท่าเรือ ASIATIQUE the Riverfront  ในเวลา 21.30 น. (ใช้ระยะเวลาในการล่องเรือประมาณ 2 ชม.ครับ) ซึ่งระหว่างล่องเรือ The Vertical Cruise ชก็จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย (หุ่นละครเล็ก) รวมถึงมีดนตรีสดบรรเลงควบคู่ขับกล่อมสร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยวไปตลอดเส้นทาง สิ่งที่น่าสนใจในการล่องเรือ เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์ นอกเหนือไปจากการแสดงต่างๆ ก็คือ ทิวทัศน์ริมสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ผสมผสานหลอมรวมกันสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่มีโอกาสได้พบเห็น เป็นภาพบรรยากาศเฉพาะซึ่งไม่อาจพบเจอได้จากจังหวัดใดๆ ในประเทศไทยนอกจากที่กรุงเทพมหานคร  กิจกรรมรับประทานอาหารค่ำพร้อมล่องเรือชมความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยายามราตรีจึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ซึ่งเดินทางมาเยือนเมืองหลวงของประเทศไทย

สถานที่และสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะ ล่องผ่าน

1. ASIATIQUE the Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์)

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

ASIATIQUE the Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์) : บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ ASIATIQUE the Riverfront คือ จุดเริ่มต้นในการล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) เมื่อกาลอดีตที่ดินขนาด 70 ไร่ อันเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของ “วัดพระยาไกร” วัดเก่าซึ่งได้รับการบูรณะซ่อมแซมแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดโชตนาราม” พร้อมกับยกฐานะเป็นวัดหลวงในรัชสมัยของ รัชกาลที่ 3 สิ่งปลูกสร้างอันโดดเด่นและถือเป็นจุดสังเกตที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนของ ASIATIQUE the Riverfront ในขณะที่เรานั่งเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือ ASIATIQUE Sky ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ความสูง 60 เมตร โดยในยามราตรีชิงช้าสวรรค์ประดับไฟส่องสว่างตัวนี้จะยิ่งดูสวยงามเป็นพิเศษ

2. สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช : เมื่อ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องออกจากท่าเรือ  ASIATIQUE the Riverfront ก็จะมุ่งหน้าขึ้นเหนือแล้วลอดผ่านใต้ “สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” สะพานคอนกรีตอัดแรงชนิดต่อเนื่อง สะพานแห่งนี้เป็นสะพานซึ่งเชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างถนนสาธร (ฝั่งพระนคร) กับถนนกรุงธนบุรี (ฝั่งธนบุรี) โดยมีการวางรางรถไฟฟ้า BTS เอาไว้ระหว่างช่องจราจรขาเข้า – ขาออกของสะพาน

3. โรงแรมและตึกสูงย่านถนนเจริญกรุง & ถนนเจริญนคร

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

โรงแรมและตึกสูงย่านถนนเจริญกรุง & ถนนเจริญนคร : ถนนเจริญกรุงเป็นถนนที่ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) และ ถนนเจริญนครภายหลังเมื่อราวปี 2482 ได้รับการจารึกชื่อไว้ในฐานะของถนนสายแรกของประเทศไทยที่มีความกว้างมากถึง 30 เมตร ระหว่างการล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ในยามราตรีผ่านย่านถนนเจริญกรุงและถนนเจริญนคร นักท่องเที่ยวจะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับจากหน้าต่างห้องของโรงแรมและตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมากมายนับได้หลายร้อยหลายพันห้อง มองดูราวกับดวงดาวที่ประดับติดอยู่บนแท่งคอนกรีตรูปทรงเลขาคณิตขนาดยักษ์ เป็นความงดงามซึ่งเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้เฉพาะในเขตเมืองหลวง

4. ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ (River City Bangkok Shopping Center)

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ (River City Bangkok Shopping Center) : เป็นศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งเริ่มเปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2527 โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มอิตัลไทย กับกลุ่มแมนดารินโอเรียนเต็ล (Mandatin Oriental Groups) ตัวอาคารได้รับรางวัลอาคารสถาปัตยกรรมดีเด่นด้านการออกแบบเมื่อปี พ.ศ. 2527 ในขณะที่ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องผ่านด้านหน้าศูนย์การค้าแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นท่าเทียบเรือริมแม่น้ำจำนวน 3 ท่า ซึ่งจะมีทั้งเรือทัวร์อยุธยา, เรือล่องคลองบางกอกน้อย, เรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยายามราตรีของบริษัทอื่นๆ แวะเวียนเข้ามาเทียบท่าและออกให้บริการล่องเรือไปตามช่วงเวลาที่กำหนดตลอดทั้งวัน

5. สะพานพระปกเกล้า

สะพานพระปกเกล้า : เป็นสะพานที่ก่อสร้างขึ้นคู่ขนานไปกับ “สะพานพระพุทธยอดฟ้า” ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยระบายการจราจรระหว่าง “ถนนจักรเพชร” กับ “ถนนประชาธิปก” ลักษณะโครงสร้างของตัวสะพานเป็นคอนกรีตอัดแรงแบบคู่ เสะพานพระปกเกล้านับเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาลำดับที่ 2 ซึ่ง The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะล่องลอดผ่าน

6. ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค (Yodpiman River Walk)

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค (Yodpiman River Walk) : หากจะกล่าวถึง “ตลาดดอกไม้สดซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ไม่ว่าใครๆ ก็จะต้องนึกถึง “ตลาดยอดพิมาน” หรือที่คนทั่วๆ ไปมักนิยมเรียกขานกันว่า “ปากคลองตลาด”.ปัจจุบัน…..นอกจาก “ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค (Yodpiman River Walk)” จะเป็นศูนย์การค้าริมแม่น้ำยอดนิยมของคนกรุง สถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นท่าเทียบเรือของ ริเวอร์สตาร์ปริ๊นเซสครุยส์ (River Star Princess Cruise) ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยายามราตรีที่มีชื่อเสียงด้วย

7. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร : เป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่ง “เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต)” สมุหนายกผู้เป็นต้นสกุล “กัลยาณมิตร” ได้อุทิศบ้านและที่ดินในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอาศัยอยู่ (เรียกว่า “หมู่บ้านกุฎีจีน”) ในขณะที่ล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) เราจะสามารถมองเห็นวิหารหลวงของวัดกัลยาณมิตรตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ด้านทิศใต้ ฝั่งธนบุรี

8. ป้อมวิไชยประสิทธิ์

ป้อมวิไชยประสิทธิ์ : เมื่อ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องผ่านวัดกัลยาณมิตรมาอีกเพียงเล็กน้อย นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นป้อมปราการก่ออิฐฉาบปูน มีกำแพงรูป 8 เหลี่ยมสร้างขนานกัน 2 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ด้านทิศเหนือฝั่งธนบุรี ป้อมแห่งนี้คือ “ป้อมวิไชยประสิทธิ์” ซึ่งเดิมมีชื่อเรียกว่า “ป้อมบางกอก” หรือ “ป้อมวิไชยเยนทร์”

9. พระราชวังเดิม

พระราชวังเดิม : ถัดจากป้อมวิไชยประสิทธิ์ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะล่องผ่านหน้า “พระราชวังเดิม” หรือ “พระราชวังกรุงธนบุรี” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ต่อเนื่องกัน

10. วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณราชวราราม : นี่คือหนึ่งในจุดสังเกตอันโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดอรุณราชวรารามเป็นวัดเก่าแก่ที่ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า “วัดมะกอก” หรือบางครั้งก็เรียกกันว่า “วัดแจ้ง” ต่อมามีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งครั้งใหญ่ในรัชสมัย (รัชกาลที่ 2)ได้พระราชทานนามใหม่ให้แก่วัดแจ้งว่า “วัดอรุณราชธาราม”ในรัชสมัยของ (รัชกาลที่ 4) วัดแห่งนี้ก็ได้รับการพระราชทานนามใหม่อีกครั้งกลายเป็น “วัดอรุณราชวราราม” ดังเช่นที่เรียกขานกันอยู่ในปัจจุบัน

11.พระบรมมหาราชวัง

พระบรมมหาราชวัง : ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีมายังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับก่อสร้างพระราชวังหลวงแห่งใหม่ขึ้นเป็นสถานที่ประทับ ในกาลนั้นยังได้มีการก่อสร้างพระอารามภายในเขตพระราชวังหลวง คือ “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” เป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)” ผ่านมาจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์จึงทรงบัญญัติให้เรียกพระราชวังหลวงที่ก่อสร้างขึ้นพร้อมๆ กับราชธานีแห่งใหม่ (กรุงเทพมหานคร) นี้ว่า “พระบรมมหาราชวัง” และเป็นคำที่ใช้เรียกขานกันสืบต่อมาจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

12. ราชนาวิกสภา

ราชนาวิกสภา : ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันตกตรงข้ามกับ “พระบรมมหาราชวัง” นักท่องเที่ยวซึ่งใช้บริการล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะสังเกตเห็นแนวอาคารแบบตะวันตก ก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น มีไม้ประกอบ ลักษณะผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าออกมาทางฝั่งแม่น้ำ แนวอาคารดังกล่าวนี้คือ “ราชนาวิกสภา”เดิมทีที่ดินอันเป็นสถานที่ตั้งของ “ราชนาวิกสภา” เคยเป็นบ้านของพระอินทรเทพ (ทัพ) แต่ปัจจุบันกองทัพเรือได้เช่าที่ดินผืนดังกล่าวมาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อใช้ดำเนินกิจการต่างๆ ของ “ราชนาวิกสภา”

13. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร : เดิมทีวัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดบางหว้าใหญ่” เป็นวัดซึ่งก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาต่อมาได้มีการขุดค้นพบระฆังลูกหนึ่งภายในบริเวณวัดแห่งนี้ซึ่งพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้นำไปประดิษฐานไว้ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและให้สร้างระฆังชดเชยแก่วัดบางหว้าใหญ่เป็นจำนวน 5 ลูก พร้อมทั้งพระราชทานนามใหม่ให้แก่วัดบางหว้าใหญ่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นักท่องเที่ยวซึ่งใช้บริการล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะสามารถมองเห็นพระอุโบสถของวัดระฆังโฆสิตารามที่มีลักษณะหลังคาลด 3 ชั้นมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และคันทวยสลักเสลาอย่างสวยงามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันตก

14. โรงพยาบาลศิริราช

โรงพยาบาลศิริราช : จากวัดระฆังโฆสิตาราม The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะล่องต่อมาผ่านด้านหน้ากลุ่มอาคารริมแม่น้ำของ “โรงพยาบาลศิริราช”

15. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ขณะที่ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องผ่านมาถึงหน้าโรงพยาบาลศิริราช หากนักท่องเที่ยวลองมองไปยังริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออก (ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช) ก็จะมองเห็นอาคารซึ่งมีลักษณะยอดแหลมดูคล้ายกับส่วนปลายของแท่งดินสอ อาคารหลังดังกล่าวนี้ คือ “ตึกโดม” สถาปัตยกรรมอันถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”

16. สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า : เป็นสะพานคอนกรีตอัดแรงชนิดต่อเนื่องขนาด 6 ช่องจราจรที่ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9)

17. พระที่นั่งสันติชัยปราการ 

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

พระที่นั่งสันติชัยปราการ : ภายหลังจากที่ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) ล่องลอดผ่านใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามาได้ไม่ไกล นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นอาคารศาลาทรงไทยแบบดั้งเดิมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออก

18. สะพานพระราม 8

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

สะพานพระราม 8 : นี่คือสิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ บนเส้นทางล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาของ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) “สะพานพระราม 8” เตรียมตัวก่อนล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยากับ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์)

19. สะพานพระพุทธยอดฟ้า ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

ล่องเรือกลางเจ้าพระยา

สะพานพระพุทธยอดฟ้า : …..ถัดจากสะพานพระปกเกล้า…..นักท่องเที่ยวซึ่งใช้บริการล่องเรือ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) จะสังเกตเห็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีลักษณะเป็นโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ สะพานแห่งนี้คือ “สะพานพระพุทธยอดฟ้า” หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์”. 

     นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะล่องเรือชมความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาในยามราตรีกับ The Vertical Cruise (เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์) แนะนำว่าควรจะติดต่อจองที่นั่งล่องเรือเอาไว้ล่วงหน้าเนื่องจากเรือสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนจำกัด (ไม่เกิน 600 ท่าน) นอกจากนี้การตัดสินใจจองที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้าไว้ก่อนก็ยังจะทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้ที่นั่งล่องเรือตำแหน่งดีๆ อีกทั้งยังสามารถจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับส่วนลดโปรโมชั่นต่างๆ ตามเงื่อนไขอีกด้วย

เจ้าพระยา

ในส่วนของการเดินทาง

  •    ขึ้นเรือ ณ ท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ ASIATIQUE the Riverfront โดยต้องมาลงทะเบียนเตรียมขึ้นเรือบริเวณศาลาริมท่าน้ำก่อนเวลา 19.00 น. โดยปกติ The Vertical Cruise : เดอะเวอร์ติเคิลครุยส์ จะเริ่มล่องออกจากท่าเทียบเรือในเวลา 19.30 น. หากนักท่องเที่ยวไม่มาลงทะเบียนรับสติ๊กเกอร์ขึ้นเรือก่อนเวลาก็อาจตกเรือได้ครับ
  •     สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาด้วยตนเองสามารถนำรถเข้ามาจอดภายในบริเวณลานจอดรถของ ASIATIQUE the Riverfront ได้ แล้วแนะนำให้นำบัตรจอดรถมาประทับตรา The Vertical Cruise ที่ศาลาริมท่าน้ำก็จะสามารถจอดรถได้ฟรีเป็นระยะเวลา 3 ชม. (จอดเกินเวลาต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ)
  •    สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกเดินทางมายัง ASIATIQUE the Riverfront ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ แล้วเดินต่อไปยังทางออกที่ 2 หลังจากนั้นให้นั่งเรือ/เรือด่วนต่อไปยัง ASIATIQUE the Riverfront หรือกรณีที่ใช้บริการรถประจำทางปรับอากาศ BRT ให้ลงป้ายพระราม 3 แล้วต่อรถแท็กซี่มายัง ASIATIQUE the Riverfront